ทำความรู้จักกับ Sculptra คืออะไร ?
Sculptra เป็น Dermal Filler หรือเทคนิค ฟิลเลอร์ทางผิวหนัง ชนิดหนึ่ง ในศาสตร์การนวดยกกระชับผิวหน้าแบบตะวันตก (European Facial Lifting Techniques ) ที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล โดย Sculptra มีส่วนประกอบหลักคือ poly-L-lactic acid (PLLA) เป็นสารสังเคราะห์ทางชีวะภาพ เพื่อใช้สำหรับสร้าง คอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังในช่วงเวลาที่ผ่านไปช่วงหนึ่ง แต่มันไม่เหมือน ฟิลเลอร์ในแบบยุคก่อนๆ ที่เพิ่มปริมาตรทันที แต่ของทาง Sculptra จะทำงานทีละช้าๆ โดยใช้ระยะเวลาสักพักจึงต่อยๆสร้าง ตอลลาเจน
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Scultra
ด้านการใช้งาน – Sculptra ได้ถูกใช้ในวงกว้างสำหรับแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า และ การสูญเสียปริมาตร โดยเฉพาะบริเวณแก้ม และ ขมับ มันสามารถนำมาใช้งานในรูปแบบที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดใบหน้า
ด้านการดูแล – การรับทรีทเมนต์ จะต้องเข้ารับการบริการหลายรอบด้วยกัน ส่วนมากจะเป็นช่วงว่างระหว่างสัปดาห์ เพื่อได้ผลลัพธ์ที่พอใจ
ระยะเวลาของผลลัพธ์ – ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ยาวนานประมาณ 2 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล และพื้นที่ที่ได้รับการรักษา
ผลข้างเคียง – ผลข้างเคียงที่พบได้โดยทั่วไปรวมทั้งอาการบวม ผิวเป็นสีแดง และช้ำ ตรงบริเวณที่ทำการฉีด ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงเกิดได้ยาก เช่นเกิดเป็นก้อน หรือ การอุดตันใต้ผิวหนัง
การพิจารณา – โดยทั่วไปแล้วผู้ที่จะรับการรักษาวิธีนี้ควรจะต้องมีสุขภาพแข็งแรง และมีความต้องการที่จะเห็นผลลัพธ์อย่างจริงจัง
Sculptra คือวิธีการทางการแพทย์ที่เป็นที่นิยม และเป็นรูปแบบที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและดูเป็นธรรมชาติ แลดูอ่อนกว่าวัย โดยไม่ต้องใช้วิธีผ่าตัดใหญ่
เท่าที่ได้ลองสืบค้น เราพบว่า PLLA ที่นิยมใช้จะมาจาก Hyamax® แต่ที่น่ากังวลคือ ที่ Alibaba ก็มีขายแบบเป็นแกลอน เต็มไปหมดในราคาถูกมากตรงนี้ทำให้ผู้เรียบเรียงไม่สามารถทราบได้เลยว่า เราควรเลือกใช้ PLLA ของที่ไหน แต่แนะนำให้เลือกโรงงานผลิตที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน หากเราไปทำ Sculptra ก็ควรเลือกคลินิกที่ไว้วางใจได้เท่านั้น ไม่ควรดูที่ราคาเพียงอย่างเดียว
Collagen Biostimulator patent
ข้อมูลจากเอกสารออนไลน์ : https://docs.bvsalud.org/biblioref/2022/04/1363771/12_n2_771_en.pdf
ในทางเทคนิค เกี่ยวกับ Collagen Biostimulator เราได้หยิบยก เอกสารสิทธิบัตรมาศึกษาให้ทำความเข้าใจกันดังนี้
Abstract
ในกระบวนการทำให้ผิวที่มีอายุแก่ลง ทั้งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ภายใน (intrinsic alterations)ในลำดับขั้นรองลงมาอาทิ ความสามารถในการสร้างใหม่ของเซลล์ เทียบกับอัตตราสูญเสีย จากระยะเวลาที่เปลี่ยนไป หรืออีกรูปแบบจะเป็นการเปลี่ยนแปลงจากภายนอก เช่น มาจากรังสีอัลตราไวโอเล็ต ที่เราสามารถสังเกตได้ การดูแลรักษาเพื่อเพิ่มผลผลิตคอลลาเจน และการสร้าง ไฟโบรบลาสต์ เพื่อสังเคราะห์ผิวที่เต่งตึง ที่เป็นสารเคลือบเซลล์ (ECM) สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับ สัณฐานวิทยา การสร้างเส้นเลือดใหม่ และ การเยียวยาผิวหนัง
การคงสภาพผิวหนังที่ดี
การคงโครงสร้างของเนื้อเยื่อและคุณสมบัติทางสรีรวิทยาของผิวหนังเกิดจากเมทริกซ์นอกเซลล์ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบจำนวนมาก รวมถึงคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน โปรตีโอไกลแคนส์ (proteoglycans) และแมคโครโมเลกุลไกลโคซามิโนไกลแคน รวมถึงไกลโคโปรตีนที่ไม่ใช่คอลลาเจนหลายชนิด
ในกระบวนการเสื่อมสภาพของผิว มีการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก
การเปลี่ยนแปลงภายในเกิดจากการสูญเสียความสามารถในการฟื้นฟูเซลล์ตามอายุ ทำให้ชั้นหนังแท้มีจำนวนเซลล์และเส้นเลือดลดลงเมื่อเข้าสู่ภาวะแก่ชรา
ส่วนการเปลี่ยนแปลงภายนอกส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวีเป็นเวลานาน
ในกระบวนการเสื่อมสภาพของผิวตามอายุ ความหนาของชั้นหนังแท้จะบางลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีและโครงสร้างในคอลลาเจน เส้นใยอิลาสติน และสารพื้นฐาน การสังเคราะห์คอลลาเจนลดลงและการย่อยสลายเพิ่มขึ้นจากระดับคอลลาเจเนสที่สูงขึ้น คอลลาเจนในผิวลดลงและมีการจัดเรียงเส้นใยที่ผิดปกติมากขึ้น เส้นใยอิลาสตินลดลงทั้งจำนวนและขนาด เช่นเดียวกับมิวโคโพลีแซ็กคาไรด์ โดยเฉพาะกรดไฮยาลูโรนิก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลลบต่อความตึงและคุณสมบัติของเส้นใยคอลลาเจนในผิว
*** ในบทต่อไปเราจะศึกษาหาคำตอบว่า การใช้ไฮยาลูโรนิก สามารถใช้ด้วยการทาผิวหนังจะได้หรือไม่ ? ***
ในกระบวนการเสื่อมสภาพของผิวจากปัจจัยภายนอก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากรังสีอาทิตย์ส่งผลกระทบต่อส่วนประกอบของเซลล์ในชั้นหนังแท้และเมทริกซ์นอกเซลล์ ทำให้เกิดการสะสมของเส้นใยอิลาสตินที่ไม่เป็นระเบียบ การแตกหักของเส้นใยคอลลาเจน และลดสัดส่วนระหว่างคอลลาเจนประเภทที่ I และ III ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของเมทัลโลโปรตีนเอส โดยเฉพาะคอลลาเจเนส และการหยุดชะงักของการสังเคราะห์คอลลาเจนจากการปฏิสัมพันธ์ของไฟโบรบลาสต์กับเมทริกซ์นอกเซลล์ ส่งผลยับยั้งการสร้างคอลลาเจนใหม่
ความสามารถของเซลล์ผิว เช่น ไฟโบรบลาสต์ ในการสังเคราะห์และจัดระเบียบเมทริกซ์นอกเซลล์เป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างรูปร่างใหม่ (morphogenesis) การสร้างเส้นเลือดใหม่ และการสมานแผลผิวหนัง โดยปัจจัยการเจริญเติบโตประเภท β (TGF-β) ที่ถูกปล่อยโดยแมคโครฟาจเป็นตัวควบคุมการแสดงออกของยีนในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนหลายประเภท เช่น คอลลาเจน I, III, IV และ V ระดับของปัจจัยการเจริญเติบโตนี้จะลดลงตามกระบวนการชรา ซึ่งกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนทั้งในการสมานแผลและหลังการรักษาเพื่อกระตุ้นการตอบสนองการอักเสบของเนื้อเยื่อ
ไบโอสติมูเลชัน คือความสามารถของโพลิเมอร์ในการกระตุ้นการตอบสนองของเซลล์หรือเนื้อเยื่อในบางการรักษาโดยผ่านการอักเสบที่ควบคุมได้ ซึ่งนำไปสู่การสลายตัวช้า ๆ ของวัสดุ และการสะสมของคอลลาเจนในเนื้อเยื่อ โดยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของไบโอแมททีเรียลและวิธีการฉีด ปัจจัยทางเคมีและกายภาพ เช่น ขนาดและโครงสร้างอนุภาค มีผลต่อการตอบสนอง อนุภาคเรียบถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อเส้นใย ขณะที่อนุภาคขนาดเล็ก (0.5–20 μm) ถูกเซลล์กินและกระตุ้นสารภูมิคุ้มกัน เช่น TNF-α
สรุปเกี่ยวกับ Poly-L-lactic acid
PLLA แบบฉีดถูกใช้เป็นฟิลเลอร์เครื่องสำอางตั้งแต่ปี 1999 เพื่อแก้ไขการสูญเสียปริมาตรบนใบหน้าและผิวหนังจากการเสื่อมสภาพ โดยให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่ำ PLLA เป็นโพลิเมอร์อินทรีย์ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง (140 kD) จัดเป็นสารย่อยสลายทางชีวภาพผ่านไฮโดรไลซิสแบบไม่ใช้เอนไซม์ ในร่างกายถูกสลายเป็นโมเลกุลเล็กลงและกำจัดออกจากร่างกายใน 18 เดือน
ขอบคุณข้อมูลดีๆ สำหรับเนื้อหาเกี่ยวกับ Sculptra จาก V Square Clinic